เมนูปลาทอด หรือปลาชุบแป้ง ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน ทีเด็ดจะอยู่ที่น้ำจิ้ม ของแต่ละร้าน แต่วันนี้ถ้าคุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้าน ทำตามสูตรที่เราจัดไว้เป็นจิ้มแจ่วสไตล์อีสานแท้ๆ รสเปรี้ยวอมหวาน เค็ม เผ็ด รับรองว่ามื้อเย็นนี้ เตรียมข้าวสวยร้อน ๆ รอได้เลยค่ะ ทั้งเคล็ดลับการกำจัดกลิ่นคาวปลาและการทอดให้อร่อย แบบง่ายๆ ไม่ง้อร้าน ใครอดใจไม่ไหวตามมาทำสูตรเด็ดไปพร้อมกันเลยจ้า

วัตถุดิบ
– ปลา (เลือกที่ชอบเลยค่ะ)
– น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วยตวง (คั้น แล้วเอาไปต้มให้เดือด)
– น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
– น้ำปลา 1/4 ถ้วยตวง (หรือซีอิ้วขาวก็ได้ค่ะ)
– น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
– ข้าวคั่ว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
– พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ (หรือมากน้อยตามความเผ็ดที่ชอบ)
– หอมแดงซอย 4 หัว
– ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว
1. ใส่น้ำมะขามเปียกลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำตาลปี๊บและน้ำปลาลงไป เคี่ยวให้เดือด ชิมรสตามชอบ ยกลงจากเตา ปิดไฟ รอจนส่วนผสมเย็น
2. เติมพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย และผักชีฝรั่งซอยลงไป พร้อมเสิร์ฟ

วิธีทอดปลา
วิธีทอดปลา

วิธีทำปลาทอด
1. ตั้งน้ำมันให้ร้อน ให้น้ำมันท่วมตัวปลา หรือน้ำมันเยอะ ๆ ทอดปลาไฟกลาง จะให้กรอบแค่ไหนตามใจชอบเลยค่ะ พยายามอย่ากลับตัวปลาหากด้านที่ทอดก่อนยังไม่เหลืองพอ เพราะเนื้อปลาอาจจะติดกระทะได้
2. เมื่อเหลืองได้ที่แล้วให้ตักปลาขึ้นพักไว้ จากนั้นทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำมันซักพัก แล้วจัดใส่จาน
3. ต่อมาเทน้ำมันออกเหลือไว้เพียงเล็กน้อย ลดไฟลงโดยใช้ไฟระดับอ่อน แล้วเจียวกระเทียม เมื่อกระเทียมใกล้เหลืองแล้วให้โรยผงปรุงรสลงไปเล็กน้อยแล้วคนให้ทั่ว เมื่อเจียวกระเทียมจนออกสีนวล ๆ แล้ว ให้ตักขึ้นเอาแต่กระเทียมไปโรยลงบนตัวปลาที่ทอดเสร็จแล้ว กระเทียมจะเหลือพอดี และกระเทียมจะออกรสเค็มนิด ๆ

ปลาทอดจิ้มแจ่ว
ปลาทอดจิ้มแจ่ว

เคล็ดลับ
1. มะนาว 1 ลูก ฝานบาง ๆ ใส่ในน้ำสะอาด 1 ลิตร นำปลาลงล้างจะช่วยดับคาวได้ค่ะ
2. ใส่เกลือลงคั่วในกระทะประมาณ 2 นาทีแล้วเททิ้งก่อนใส่น้ำมันทอด ปลาจะไม่ติดกระทะ

*** จะทานปลาทอดแบบแยกน้ำจิ้มแจ่ว หรือจะราดบนตัวปลา ก็แล้วแต่ความชอบนะคะ บอกได้เลยว่าอร่อยไม่ต่างกันค่ะ

 

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ