เทคนิคการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุช่วงฤดูฝน ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมมีส่วนทำให้เกิดอุบัติเหตุทาง ถนนได้ง่าย การตรวจสอบความพร้อมของรถยนต์เป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะคุณผู้หญิง เรามีขั้นตอนการแนะนำแบบง่ายๆ มาฝากค่ะ
วิธีการเช็คสภาพรถเพื่อการรับมือหน้าฝน
⦁ ยางรถยนต์ ปัจจัยสำคัญช่วยในการรีดน้ำ เพื่อไม่ให้รถเกิดอาการเหินน้ำ ควรสับเปลี่ยนยางรถยนต์ที่ระยะทาง 10,000 กม. ตรวจเช็คอะไหล่ตัวยึดล้อรถให้มีสภาพใช้งานได้ดีทั้งระบบ รวมไปถึงการเช็คลมยางสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ตรวจสอบว่าดอกยางยังคงมีเหลือเพียงพอ (ไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิเมตร)
⦁ ใบปัดน้ำฝน ลองเปิดใช้งานหากแข็งตัว การยืดหยุ่นจะลดลงทำให้ปัดไม่หมด ยังคงเหลือคราบน้ำเกาะอยู่บนหน้ากระจกจนเสียทัศนวิสัย ก็ควรรีบเปลี่ยนทันที และควรตรวจสอบด้วยว่าไม่มีการฉีกขาดของตัวยาง ควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนใหม่ทุกปีเมื่อเข้าหน้าฝน
⦁ ระดับน้ำหม้อพักน้ำฉีดกระจก ควรเติมให้เต็มอย่างสม่ำเสมอ เผื่อไว้ในกรณีที่มีคราบดินโคลนถูกซัดขึ้นมาบดบังทัศนวิสัย
⦁ เช็คระบบไฟส่องสว่างและไฟสัญญาณต่างๆ เปิดไฟทั้งหมดดูการทำงานปกติหรือไม่ ถ้าพบว่ามีหลอดไม่ติด ควรเปลี่ยนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เมื่อเวลาฝนตกหนักๆ ทัศนะวิสัยจะไม่ดี สามารถลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้
⦁ ตรวจเช็คระบบเบรค ควรเช็คระดับน้ำมันเบรคทุกสัปดาห์ สังเกตเสียงขณะเบรค หากการเบรคไม่อยู่ในระยะปกติ หรือดูจากไฟเตือนบนหน้าปัด ซึ่งหากระบบเบรคหมดสภาพ นอกจากอันตรายถนนลื่นในช่วงหน้าฝนแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันได้ถึงวันละ 400 ซีซีทีเดียว
⦁ ตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง พวงมาลัย ระดับของเหลวต่างๆ ปริมาณลมยาง และระบบไล่ฝ้าควรได้รับการตรวจสอบว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานสำหรับการเดินทาง ที่อาจต้องพบกับฝนที่ตกหนักระหว่างทาง
⦁ เตรียมอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉิน ให้พร้อมกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดหมายเอาไว้ล่วงหน้าหากรถเสียระหว่างการเดินทาง อุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วควรประกอบไปด้วย ยางอะไหล่ ไฟฉาย ฟิวส์ ที่สูบลม น้ำสะอาด อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และป้ายสัญญาณขอความช่วยเหลือที่มองเห็นเด่นชัด
เคล็ดลับการขับขี่ขณะฝนตก
1. ใช้สัญญาณไฟให้เหมาะสม
ขณะฝนตกควรเปิดไฟหน้าควบคู่ไปด้วย แม้ว่าเวลากลางวันก็ตาม การเปิดไฟช่วยส่องทาง เพื่อให้รถคันอื่นสามารถมองเห็นรถของคุณได้ง่าย และยังมองเห็นรถของคุณได้จากระยะไกลด้วย ช่วยเพิ่มความปลอดภัย การเปิดไฟตัดหมอกหน้า-หลัง ควรเปิดเมื่อฝนตกหนักจริงๆ (ใช้ที่ปัดน้ำฝนความเร็วสูงสุด) และควรปิดเมื่อฝนเบาลงหรือหยุด
2. เว้นระยะคันหน้าให้มากกว่าเดิม
สภาพถนนที่ลื่น จะทำให้ระยะเบรคเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ทางที่ดีหากขับขี่ด้วยความเร็ว ก็ควรจะเว้นระยะห่างคันหน้าให้มากขึ้น หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้สามารถหยุดรถได้ทันท่วงที การขับรถด้วยความระมัดระวังและไม่ขับตามหลังรถโดยสารขนาดใหญ่หรือรถบรรทุกจะ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยยิ่งขึ้น เพราะล้อด้านหลังของรถขนาดใหญ่มักจะปัดละอองน้ำมาใส่รถคันข้างหลัง จนอาจทำให้เสียทัศนวิสัยในการขับขี่ได้
3. เลี่ยงการขับรถลุยแอ่งน้ำ
การขับรถผ่านแอ่งน้ำขังด้วยความเร็ว อาจทำให้รถเกิดอาการเสียหลักได้ ทางที่ดีหากพบแอ่งน้ำอยู่ข้างหน้า ควรชะลอความเร็วลง ขณะขับผ่านแอ่งน้ำห้ามเหยียบคันเร่งหรือเบรคเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้รถเสียการควบคุม เมื่อพ้นแอ่งน้ำจึงเหยียบคันเร่งต่อได้ หากพอหลบได้ก็ควรหลบอย่างปลอดภัยดีที่สุด หลีกเลี่ยงแอ่งน้ำลึก ผู้ขับรถไม่มีทางทราบได้เลยว่าภายใต้ผิวน้ำนั้นมีสภาพเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าหากขับลงไปยังแอ่งน้ำด้วยความเร็วสูง กันชนหน้าและหม้อน้ำอาจจะถูกกระแทกจนได้รับความเสียหายร้ายแรง หรือถ้าคลื่นน้ำซัดเข้ามาในห้องเครื่องก็อาจจะทำให้เครื่องยนต์ดับได้
4. เหยียบเบรคเมื่อฉุกเฉิน
ปัจจุบันรถยนต์ จะติดตั้งระบบป้องกันล้อล็อค หรือ เอบีเอส มาให้ ซึ่งช่วยบังคับทิศทางของพวงมาลัยได้ และระยะเบรคสั้นลง ระบบเอบีเอสจะทำงานต่อเมื่อเหยียบเบรคกระทันหันอย่างแรง และแป้นเบรคจะมีอาการสะท้านเป็นจังหวะจนรู้สึกได้ ซึ่งถือเป็นอาการปกติของระบบ จึงควรเหยียบเบรคอย่างต่อเนื่องและมั่นคง เพื่อให้หยุดรถได้อย่างรวดเร็วที่สุด หลีกเลี่ยงการเหยียบเบรกแรงๆ หรือการเบรกกระทันหัน การค่อยๆ ทิ้งน้ำหนักเหยียบเบรกเพื่อชะลอความเร็วลงนับว่าเป็นวิธีการขับขี่ที่เหมาะ สมที่สุด เพราะหากเหยียบเบรกอย่างรุนแรง รถอาจลื่นไถลได้
5. ไม่ขับรถด้วยความเร็วสูง
ในฤดูฝนถนนจะลื่นกว่าปกติ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การขับรถด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนที่น้ำฝนอาจก่อตัวเป็นแผ่นน้ำบางๆ คั่นกลางระหว่างล้อและถนน ทำให้ความสามารถในการยึดเกาะถนนลดลง ผู้ขับขี่จึงควบคุมรถได้ยากขึ้น เพื่อความไม่ประมาท ควรขับรถอย่างระมัดระวัง! รักษาระดับความเร็วให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอยู่เสมอ จะไม่ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่าการขับรถที่ความเร็ว 90 กม./ชั่วโมง หรือผิดกฏหมายความเร็วที่กำหนดนะคะ
➣ เพื่อความปลอดภัยของคุณและผู้อื่น การขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท ไม่ดื่ม เป็นการลดความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน และมีน้ำใจต่อผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันด้วยนะคะ
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ