ช่วงเวลาที่หน้าฝนมาเยือน การสวมชุดเก่งแต่เมื่อเดินออกจากบ้านกลับได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ทำให้คุณขาดความมั่นใจ และเสียบุคลิกภาพ หากคุณประสบกับปัญหากลิ่นอับชื้นเหล่านี้ล่ะก็ คุณต้องหาวิธีหรือทำอะไรสักอย่างให้ปลอดจากเจ้ากลิ่นอับนี้แล้วใช่ใหมละคะ เรามีวิธีง่ายๆ เพียงไม่กี่วิธีรับรองได้ว่าคุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้านจะพบกลิ่นหอมสะอาดสดชื่นขึ้นค่ะ

สาเหตุและวิธีกำจัดกลิ่นอับชื้น

1. ตรวจเช็คเครื่องซักผ้า
ต้นตอของกลิ่นอับได้เช่นกัน เครื่องแบบฝาหน้าจะกักความชื้นไว้มากผ่านไปนานยังเป็นแหล่งเจริญเติบโตของราอีกด้วย

ทำความสะอาด ➣ ใสเปอร์คาร์โบเนตแบบเหลวในช่องใส่ผงซักฟอก เทน้ำส้มสายชูลงไปในช่องน้ำยาปรับผ้านุ่ม เปิดเครื่องซักผ้าในโหมดสะอาดล้ำลึก (Sanitary Cycle) เมื่อเครื่องหยุดเรียบร้อยแล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง

 

2. เลือกใช้ผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม
อีกหนึ่งตัวช่วยในการซักผ้า ร่วมกับเครื่องซักผ้า สามารถช่วยลดกลิ่นอับที่จะเกิดกับเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี ทั้งช่วยให้เสื้อผ้ามีกลิ่นหอมถูกใจผู้ใช้อีกด้วย ปัจจุบันก็มีการพัฒนาผงซักฟอก น้ำยาซักผ้า หรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม หลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ให้ตรงกับรุ่นหรือแบบของเครื่องซักผ้าได้สะดวกขึ้น

3. การแขวนเสื้อผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
เสื้อผ้าแม้จะผ่านการซักมาเป็นอย่างดี ก็ทำให้เกิดการอับชื้นได้ หากแขวนไว้แน่นเกินไป ปัญหาของกลิ่นอับในเสื้อผ้า แหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรีย ควรแขวนเสื้อผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลมเข้าถึง หรือ ในห้องที่ค่อนข้างโปร่งโล่ง ก็สามารถช่วยลดการก่อตัวของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้ค่ะ

4. ตากผ้าในที่ที่แสงแดดส่องถึง
เป็นวิธีแบบเดิม ๆ คือ ตากผ้ากลางแสงแดดจัดที่ยังคงใช้ได้ผลกับเสื้อผ้าทุกแบบทุกชนิดทุกขนาด เพียงมีพื้นที่ในการตากผ้ากลางแดด บางท่านอาจซักผ้าด้วยมือ หรือซักด้วยเครื่องซักผ้าและปั่นหมาดช่วยแล้วตากกลางแจ้งในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง และโปร่งโล่ง เว้นระยะห่างจากผ้าแต่ละชิ้นให้พอเหมาะ แสงแดดส่องเข้าถึงส่วนต่าง ๆ ของเสื้อผ้าได้อย่างเต็มที่ แดดจัดช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว และไร้กลิ่นอับติดค้าง ระงับการก่อตัวของแบคทีเรียและเชื้อราที่จะเกิดกับเสื้อผ้า

5. อย่าใช้ผงซักฟอกมากเกินไป
การใส่ปริมาณมากๆ มักจะตกค้างอยู่บนเนื้อผ้าซึ่งจะเป็นตัวดักจับความชื้นไว้ ยิ่งตกค้างสะสมมาก กลิ่นอับเชื้อราก็จะทวีคุณทำให้เสื้อผ้าเหม็นกว่าเดิม ดังนั้นควรใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าในปริมาณที่พอเหมาะหรือใช้น้อยลงเพื่อไม่ให้เสื้อผ้าดูดสารตกค้างไว้

6. ใช้น้ำส้มสายชู
เป็นตัวช่วยเรื่องการกำจัดกลิ่น ช่วยเรื่องการฆ่าเชื้อโรคได้ดี น้ำส้มสายชูสามารถกำจัดเชื้อรารวมไปถึงกลิ่นอับให้หมดไปจากเสื้อผ้าได้ ให้เติมน้ำส้มสายชูลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับเสื้อผ้าแล้วเลือกโหมดซักผ้าที่นานที่สุด เมื่อถึงขั้นตอนการชะล้างให้เติมน้ำส้มสายชูลงไปอีกถ้วย ทำแบบนี้รับรองว่ากลิ่นอับจะหายไป

7. ใช้เบคกิ้งโซดา
เป็นอีกตัวเลือกของการทำความสะอาดที่สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากผ้าได้ ให้ใช้เบคกิ้งโซดา 1 ถ้วยขณะซัก เลือกโหมดที่ปั่นนานที่สุดและใช้ความร้อนสูงสุด ทำแบบนี้ซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง หากเสื้อผ้ามีกลิ่นอับติดอยู่มาก เสื้อผ้าของคุณก็จะสะอาดปลอดกลิ่นค่ะ

8. เลือกใช้ผงซักฟอกแรงๆ
สำหรับผ้าที่สกปรกและเหม็นมากๆ ลองหาซื้อแบบที่แสดงรายละเอียดไว้เพื่อช่างหรือผู้ใช้แรงงาน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีสารที่ต่อสู้กับกลิ่นแรงๆ ได้ดีเหมาะกับการใช้กำจัดกลิ่นอับชื้น วิธีการใช้ก็จะมีบอกที่บรรจุภัณฑ์อยู่แล้วล่ะค่ะ

9. ใช้บอแรกซ์
เป็นการทำความสะอาดวิธีหนึ่ง สารบอแรกซ์สามารถฆ่าเหล่าเชื้อราได้หมดจดและกำจัดกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี เวลาที่ใช้ให้ผสมบอแรกซ์ ½ ถ้วยกับน้ำร้อนจัด 1 ถ้วยทิ้วไว้ให้มันละลาย เมื่อใส่น้ำและผ้าลงในเครื่องซักผ้าให้เทส่วนผสมนี้ลงไป เลือกใช้โหมดที่ร้อนที่สุดและเลือกปั่นนานที่สุด

10. ใช้ผลิตภัณฑ์ Oxiclean
Oxiclean ถูกทดสอบให้เห็นมาแล้วว่าสามารถกำจัดกลิ่นอับชื้นออกจากเสื้อผ้าได้ดี ควรปฏิบัติตามคำแนะนำข้างบรรจุภัณฑ์เกี่ยวกับการใส่ลงไปขณะซักผ้า สามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้เรื่อยๆ เพราะจะทำให้หอมสดชื่นและดูใหม่อยู่เสมอ

11. ตากผ้าให้อากาศถ่ายเท
หากยังมีกลิ่นอับที่เสื้อผ้าอยู่เพียงเล็กน้อย แก้ไขง่ายๆ คือนำไปผึ่งไว้บนราวตากผ้าด้านนอกไม่ว่าจะแห้งหรือเปียกอยู่ก็ตามแสงแดดและลม จะช่วยให้กลิ่นอับเลือนลางไปได้

เคล็ดลับ
➣ หลีกเลี่ยงการกองเสื้อผ้าที่ชื้นๆ ไว้นานหลายๆ วัน หากเสื้อผ้าเปียก (เปียกฝนหรือเหงื่อ) ให้นำไปผึ่งไว้เสียก่อนจะใส่ลงตะกร้าผ้า
➣ ผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกขาว กำจัดกลิ่นได้ดีก็จริง แต่การใช้บ่อยๆ จะทำให้ผ้าซีดแและเก่าเร็วอีกด้วย ฉะนั้นจัดผลิตภัณฑ์สำหรับฟอกขาวไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายดีกว่าค่ะ
➣ ใช้ถุงน้ำหอมปรับอากาศ แบบที่ใช้แขวนหรือวางในตู้เสื้อผ้า สามารถช่วยลดอับและยับทำให้เสื้อผ้ากลิ่นหอมยิ่งขึ้น

⏩⏩ ไม่ยากเลยใช่มั้ยค่ะ คุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้านอย่าลืมนำไปใช้กันดูนะคะ ⏪⏪

 

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ