ต้นไม้พื้นบ้านของเราอีกอย่างหนึ่งที่คนไทยนิยมปลูก เพราะนอกจากใบแคที่ร่วงหล่นจะกลายเป็นปุ๋ยอย่างดีที่ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์แล้ว “ดอกแค” ก็ยังสามารถนำมาประกอบอาหาร และมีประโยชน์กับร่างกายมากอีกด้วย ดอกแค ยอดแค เป็นผักที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านความชราได้อย่างดีเยี่ยม เพราะดอกแคและยอดแคมีสารอาหารที่มีส่วนสำคัญในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระให้กับร่างกาย ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินบี1 2 3 วิตามินซี เบต้าแคโรทีน แคลเซียม ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็ก สารอาหารทั้งหมดนี้ มีคุณสมบัติในการชะลอความแก่และทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัยค่ะ

ประโยชน์ของดอกแคและยอดแค
– ช่วยในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระและชะลอความชราของร่างกาย
– ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง
– ช่วยในการบำรุงสายตาและมองเห็นในที่มืด
– ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
– ช่วยป้องกันการเกิดโรคเบาหวาน
– ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงไม่อ่อนแอ ไม่เหนื่อยง่าย
– ช่วยให้กระดูกหนาแน่นไม่เปราะง่าย
– ช่วยในกระบวนการย่อยอาหารและขับถ่าย
– ช่วยป้องกันไม่ให้ผมร่วง
– ช่วยทำให้ผิวพรรณมีเลือดฝาดเปล่งปลั่งสดใสสุขภาพดี ป้องกันผิวหนังแห้งแตก ไร้ริ้วรอยแห่งวัย
– ช่วยลดปัญหาเล็บมือ เล็บเท้า เปราะแตกง่าย
– ช่วยในเรื่องของความจำดีขึ้น
– ช่วยลดปัญหาการเกิดโรคซึมเศร้
– ช่วยป้องกันการเกิดโรคโลหิตจา
– ช่วยป้องกันผิวหนังอักเสบเป็นผื่น
– ช่วยป้องกันการเกิดต้อกระจก
– ช่วยลดปัญหาอาการเวียนศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน
– ช่วยบรรเทาอาการสิวอักเสบ
– ช่วยลดอาการหงุดหงิด
– ช่วยแก้อาการนอนไม่หลับ
– ช่วยระบบขับถ่าย เป็นยาระบายอ่อน ๆ

คุณค่าทางโภชนาการ
มีแคลเซียมและเหล็กสูง มีโปรตีนประมาณ 1.22% และมีวิตามินบี ดอกแคใช้เป็นอาหารเหมือนผักทั่วๆ ไปได้ ยอดอ่อนและใบอ่อนซึ่งจะงามดีช่วงฤดูฝนนิยมลวกน้ำร้อนใช้กินร่วมกับน้ำพริกกะปิหรือน้ำพริกปลาร้า ทั้งดอก ยอดอ่อน และใบอ่อน มีเส้นใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก แคโรทีน วิตามินเอ วิตามินปีหนึ่ง วิตามินบีสอง และวิตามินซี

“ดอกแค” นั้น ถือเป็นอาหารที่คนโบราณจะกินแก้ไข้หัวลม หรืออาการไข้ที่จะเกิดในช่วงเปลี่ยนฤดู เปลี่ยนอากาศ ที่มักจะทำให้หลายๆ คนเกิดอาการไอ จาม ครั่นเนื้อครั่นตัวกันขึ้นมา โดยสารอาหารต่างๆนั้น แต่การจะนำดอกแคมาทำอาหารนั้นจะต้องเด็ดเกสรสีเหลืองของดอกแคออกก่อนจะทำให้ไม่มีรสขม ในดอกแค 100 กรัม หรือ 1 ขีด ให้พลังงานต่อร่างกาย 10 กิโลแคลอรี

*** ทานผักให้เป็นยา ดีต่อสุขภาพและความงามนะคะ

 

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ