โบราณนิยมนำสายบัวมาต้มหรือแกง เพราะสายบัวมีสรรพคุณที่ดีหลายอย่าง เช่น ลดอาการเกร็งของลำไส้และกระเพาะ ลดความเครียดทางสมอง บรรเทาอาการท้องผูก ขับปัสสาวะ ดับพิษร้อนในกาย วันนี้เราจึงนำเสนอ “ต้มกะทิสายบัว” มีดีอย่างนี้ จะพลาดได้อย่างไร เตรียมวัตถุดิบให้พร้อมแล้วมาลองทำทานดีกว่าค่ะ คุณ

วัตถุดิบ
● สายบัว 3 สาย
● ปลาทูนึ่ง 3 ตัว
● มะดัน 3 ผล
● มะพร้าวขูด 500 กรัม
● เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
● น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
● ผักชีสำหรับตกแต่ง

เครื่องแกง
● พริกไทย 8 -10 เม็ด
● หอมแดงซอย 5 หัว
● กะปิอย่างดี 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. โขลกพริกไทยให้ละเอียด ใส่หอมแดงและกะปิโขลกต่อจนละเอียดให้เข้ากัน ตักใส่ถ้วย พักไว้
2. ลอกเยื่อที่หุ้มสายบัวออกให้หมด หักเป็นท่อนยาว 1 1/2 นิ้ว ใส่ถ้วย จากนั้นเตรียมปลาทู (จะใส่แบบหักหัวออกก็ได้ค่ะ) ล้างมะดัน ฝานเนื้อมะดันใส่ถ้วย พักไว้
3. คั้นมะพร้าวโดยใส่น้ำอุ่น 1/2 ถ้วย คั้นให้ได้หัวกะทิ 1/2 ถ้วย จึงใส่น้ำอีก 1 1/2 ถ้วย คั้นให้ได้หางกะทิ 2 ถ้วย (หากไม่สะดวกจะใช้แบบสำเร็จรูปก็ได้ค่ะ)
4. ละลายเครื่องแกงที่โขลกกับหางกะทิลงในหม้อ ยกขึ้นตั้งไฟใช้ระดับไฟกลาง หมั่นคนอย่าให้กะทิแตกมัน ใส่เนื้อมะดันลงไป (มะดันเวลาสุกจะนุ่ม) ให้ตักออก จากนั้นใส่ปลาทูและสายบัว คนพอทั่ว ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ชิมรสให้ออกหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ ต้มต่อจนสายบัวสุกนุ่ม ใส่หัวกะทิ คนพอทั่ว จึงปิดไฟ
5. เตรียมเสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิข้าวสวยร้อนๆ ค่ะ

เคล็ดลับ
➣ ลอกเปลือกสายบัวออก แล้วนำปแช่ในน้ำเกลือสักพัก จะช่วยทำให้สายบัวไม่ดำ จากนั้นนำสายบัวมาใส่ตะแกรงให้สะเด็ดน้ำ
➣ ล้างปลาด้วยเกลือและน้ำมะขามเปียก ล้างหลายน้ำจะช่วยดับกลิ่นคาวปลา
➣ หากไม่มีลูกมะดันก็ให้ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกแทน
*** ง่ายใช่ไหมละค่ะ คุณแม่บ้านและคุณพ่อบ้าน อาหารไทยสูตรโบราณที่ทำง่ายๆ ได้ที่บ้าน อร่อยและรสเข้มข้นแบบนี้ ไม่ต้องง้อร้านอาหาร ก็ได้นะคะคุณ…

 

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ