สมุนไพรที่เราใช้เป็นประจำอยู่แล้วในครัว เพื่อการปรุงอาหารนั้นน่าจะเป็นวิธีการที่สร้างทางเลือกให้คุณกว่าเดิมหรือไม่ น่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของคุณหรือไม่ สมุนไพรเหล่านี้สามารถรักษาและบรรเทาอาการเจ็บป่วยนั้นได้ การใช้สมุนไพรในครัวนอกจากจะช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลในบ้านแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังให้สมาชิกในบ้านรู้จักประโยชน์ของพืชสมุนไพรใกล้ตัวอีกด้วย
กระชาย ➧ แก้โรคในปากและคอ โลหิตเป็นพิษ
เรานิยมนำกระชายเหลืองมาทำอาหารไทยหลายอย่าง มีประโยชน์ช่วยแก้โรคในปากและคอ แก้อาการโลหิตเป็นพิษและถอนพิษต่างๆ ท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นยารักษาริดสีดวงทวารและช่วยขับปัสสาวะ และที่สำคัญ กระชายได้ฉายาในวงการแพทย์ว่า “โสมไทย” เลยทีเดียว กระชายเหลือง 1 ขีด ล้างหั่นเป็นแว่น เติมน้ำ 2 ถ้วย ปั่นให้ละเอียด ผสมน้ำเปล่าจนได้หนึ่งลิตร กรองเอากากออก ( กากกระชายไม่ควรกินให้นำมาพอกหัวเข่า – ข้อเท้า ลดปวดลดบวมได้ เราก็จะได้หัวเชื้อน้ำกระชาย (สามารถใส่ตู้เย็นเก็บไว้ได้นาน ๑ เดือน )
ตะไคร้ ➧ ไล่ลม-แก้จุกเสียด
เครื่องต้มยำ หากคุณรู้สึกท้องอืด แน่นจุก เสียดท้อง ทานอาหารแล้วไม่ย่อย ลองนำตะไคร้ ต้นสดประมาณสัก 2 ต้น (ประมาณ 40-60 กรัม) ล้างให้สะอาดหั่นเป็นท่อนๆ ทุบตะไคร้พอบุบ ๆนำไปต้มกับน้ำเปล่าประมาณ 1 ลิตร กรองเอากากออกด้วยผ้าขาวบาง ใส่น้ำตาลเล็กน้อย ดื่มแบบร้อน ๆ หลังอาหารหรือเมื่อมีอาการจะช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เนื่องจากในตะไคร้ มีน้ำมันที่มีฤทธิ์ขับลมลดการบีบตัวของลำไส้ และการดื่มน้ำตะไคร้เป็นประจำยังช่วยขับเหงื่อและบำรุงธาตุอีกด้วย
มะขาม ➧ รักษาไข้หวัดและอาการเจ็บคอ
มีรสเปรี้ยวที่คู่ครัวคนไทยมาช้านาน ใช้รักษาอาการไอระคายคอจากเสมหะ ใช้เนื้อของมะขามแก่ หรือมะขามเปียก(รสเปรี้ยว) จิ้มเกลือรับประทาน หรืออาจจะทำเป็นน้ำมะขามเหยาะเกลือสักนิดจิบบ่อย ๆ ก็ได้ ในเนื้อมะขามที่แก่จัด มีกรดและมีฤทธิ์ระบายความร้อนในร่างกาย รสเปรี้ยวของมะขาม ช่วยกัดเสมหะให้ละลายได้ สามารถใช้มะขามสดหรือมะขามเปียก ทานแทนวิตามินซีได้
ข่า ➧ รักษากลากเกลื้อนและขับน้ำคาวปลา
เครื่องเทศสดเป็นตัวชูโรงของต้มข่าไก่เลยทีเดียว คือ ข่า พวกเหง้าเนื้อในมีสีเหลืองอ่อน ๆ มีกลิ่นหอมเฉพาะ มีรสเผ็ดร้อน ปร่า ใช้ข่ารักษากลากเกลื้อน ก็ให้ใช้เหง้าแก่ล้างให้สะอาด ฝานเป็นแว่นบาง ๆ ให้ได้น้ำหนัก 50 กรัม แช่กับเหล้าขาวพอท่วมข่า ทิ้งไว้ 1 คืน ก่อนจะใช้ทาให้ใช้ไม้ไผ่ขูดบริเวณที่เป็น กลากเกลื้อนนั้นก่อน พอแดง ๆ จึงนำน้ำยาที่แช่ไว้มาทาเช้า-เย็น จนกว่าจะหาย นอกจากนี้คุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกใหม่ ให้ใช้ข่าตำผสมกับมะขามเปียกและเกลือรับประทานทุกวันจะช่วยขับน้ำคาวปลาได้ไวขึ้น
ฟักทอง ➧ ป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงนัยน์ตา ตับและไต
เนื้อฟักทองประกอบด้วย แป้ง โปรตีน ไขมัน ฟอสฟอรัส แคลเซียม เหล็ก และ สารเบต้า – แคโรทีน ซึ่งเป็นสารที่ร่างกายนำไปสร้างวิตามิน เอ เมล็ดมีฟอสฟอรัสในปริมาณสูง รวมทั้งแป้ง โปรตีน นอกจากนั้น ฟักทองสามารถกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ซึ่งช่วยป้องกันโรคเบาหวาน ความดันโลหิต ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงนัยน์ตา ตับและไต เมล็ดใช้เป็นยาขับพยาธิตัวตืด ป้องกันการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ และช่วยดับพิษปอดบวม รากช่วยแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย ยางช่วยแก้พิษผื่นคัน เริม และงูสวัด
ใบกะเพรา ➧ แก้ปวดท้อง ท้องขึ้น แก้ลมตานซาง ขับผายลม ทำให้เรอ แก้จุกเสียดในท้อง สำหรับเด็กอ่อน
ใช้ปรุงเป็นอาหารและนำมาทำเป็นสมุนไพรได้ ใช้ใบกะเพราสดสัก 3-4 ใบ ผสมเกลือเล็กน้อย ตำให้แหลก คั้นน้ำนำมาผสมน้ำสุกหรือน้ำผึ้งให้เด็กอ่อนกิน เป็นยาถ่ายขี้เทายังช่วยขับผายลมได้เป็นอย่างดีและช่วยแก้อาการท้องอืดได้ เวลาปวดท้องถ้าหายาอย่างอื่นไม่ได้ จะใช้ใบกะเพราสดกินแทนแก้ปวดท้อง
มะนาว ➧ เป็นยาขับเสมหะแก้ไอ แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน มีวิตามินซี
มะนาวถือเป็นยาอายุวัฒนะชนิดหนึ่งนอกจากประโยชน์ดังที่บอกไปแล้ว มะนาวยังมีวิตามินซีสูง ช่วยการรักษาอาการเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด ช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ บรรเทาอาการต่อมทอนซิลอักเสบ ลดอาการเหงือกบวม ช่วยขับพยาธิและรักษาอาการท้องผูก ท้องอืด ปวดท้อง ท้องแน่น ท้องเฟ้อ รักษาอาการโรคกระเพาะ ท้องร่วง แก้อาการบิด รักษาอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอยหรือขัดเบา ช่วยฟอกและบำรุงโลหิต รักษาอาการโลหิตจาง แก้โรคเหน็บชา และยังช่วยรักษาอาการปวดข้อได้อีกต่างหาก เห็นไหมล่ะว่าประโยชน์ของมะนาวเขาจัดเต็มจริง ๆ
กระเทียม ➧ โบราณใช้กระเทียมรักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ช่วยรักษาแผลที่เน่าเปื่อยและเป็นหนอง ป้องกันโรคเบาหวาน และช่วยขจัดพิษสารตะกั่ว
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันกระเทียมคงหนีไม่พ้นการนำมาใช้เพื่อช่วยปรุงรสชาติของอาหาร ไม่ว่าจะใช้ผัด แกง ทอด ยำ ต้มยำ หรือน้ำพริกต่าง ๆ อีกสารพัด เครื่องสมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด และยังเป็นพืชที่ธาตุซีลีเนียมสูงกว่าพืชชนิดอื่น ๆ อีกทั้งยังมีสารที่เป็นตัวสร้างเซลล์ในร่างกาย
หัวหอม ➧ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดไขมันอุดตันในเส้นเลือด ป้องกันการเกิดลิ่มเลือด
หอมหัวใหญ่มีสารฟลาโวนอยด์ ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งไขมันไม่ให้เกาะ หรืออุดตันผนังหลอดเลือดภายในร่างกายได้ดี นอกจากนี้หัวหอมยังมีประโยชน์อีกมากมาย