กะหล่ำปลี ➱ ผักที่มีใยอาหารสูง (ไฟเบอร์) และมีวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นำไปประกอบอาหารได้หลายอย่าง และทำได้เกือบทุกเมนู ทั้งอาหารไทย อาหารเทศ หรือทานสดๆ ก็อร่อย ได้คุณค่าทางสารอาหารไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะกะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูงเมื่อเทียบกับผลไม้มีหลายสีทั้งขาว ม่วง และแดง เพิ่มสีสรรให้กับอาหารจานโปรด ผัด แกง ต้ม หรือเครื่องเคียงได้เป็นอย่างดี และราคาไม่แพง
ประโยชน์และสรรพคุณ :
1. ช่วยลดความอ้วน ล่าสุดมีงานวิจัยออกมาว่ากะหล่ำปลีมีกรดทาร์ทาริก (Tartaric Acid) ช่วยยับยั้งขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งไปเป็นไขมันสะสมในร่างกายจึงช่วยลดระดับคลอเลสเตอรอลในเลือดได้
2. เสริมสร้างภุมิคุ้มกัน ในกะหล่ำปลีมีวิตามินซีสูงทำให้หวัดหายเร็ว การนึ่ง อบ หรือผัด จะช่วยคงคุณค่าสารอาหารในกะหล่ำไว้ได้ดีที่สุด
3. บำรุงกระดูกและฟัน กะหล่ำปลีอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ซึ่งดีต่อรางกายในการเสริมสร้างกระดูกช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน ในเด็กและคนชรา
4. ลดความเสี่ยงจากมะเร็งลำไส้ การรับประทานกะหล่ำปลี ในแบบปรุงสุกหรือแบบทานสด ประมาณ 2 ครั้ง/สัปดาห์ จะช่วยลดโอกาสการเป็นมะเร็งลำไส้ในผู้ชายลงถึงร้อยละ 66 และหากทานกะหล่ำปลีปรุงสุกวันละ 2 ช้อนโต๊ะ ก็จะช่วยป้องกันมะเร็งช่องท้องได้เช่นกัน
5. ช่วยย่อยอาหารและล้างพิษ ในกะหล่ำปลีมีใยอาหารปริมาณที่พอเหมาะจึงช่วยย่อยอาหาร กระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ทำให้นอนหลับสบาย ในกะหล่ำปลี มีสารซัลเฟอร์ สรรพคุณช่วยระงับประสาททำให้รู้สึกผ่อนคลายความตึงเครียดจึงทำให้นอนหลับ ดีขึ้น วิธีรับประทานคือ การนำกะหล่ำปลีไปคั้นสดๆ แล้วดื่ม
7. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร กะหล่ำปลีมีสารต้านการอักเสบของแผลในกระเพาะและลำไส้ตามธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นเซลล์เยื่อบุกระเพาะและลำไส้ให้สร้างน้ำคัดหลั่งเคลือบผิวทางเดินอาหารจึงป้องกันไม่ให้เกิดแผลจากกรดในกระเพาะอาหารได้
8. บรรเทาอาการปวดตึงคัดเต้านม นำกะหล่ำปลีมาประคบเต้านมโดยลอกกะหล่ำปลีออกเป็นใบแล้วนำมาประคบที่เต้า นมข้างละใบ ใช้ผ้าพันทิ้งไว้ 20 นาที โดยไม่ต้องนวดคลึงอาการปวดบวมคัดตึงจะหายไป
สรรพคุณทางยา :
นักวิจัยศึกษาพบว่า สารกลูทามีนในกะหล่ำปลีช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ช่วยบรรเทาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ อีกทั้งยังมีสารซัลเฟอร์ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่ ทำให้การขับถ่ายดี ไม่เพียงเท่านั้น สารซัลเฟอร์ยังช่วยลดระดับคอเลสเทอรอล ระงับประสาท ทำให้นอนหลับได้ง่ายอีกด้วย
คุณค่าทางโภชนาการ :
สารอาหารที่ได้รับจาก กะหล่ำปลี อุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี 1, 2, 3, 6 วิตามินซี วิตามินอี วิตามินเอ โฟเลต เบต้าแคโรทีน ไฟเบอร์และแร่ธาตุต่างๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และแมกนีเซียม
*** จากการศึกษาพบว่าในกะหล่ำปลีฝอย 1 ถ้วยมีวิตามินซีถึง 18 มิลลิกรัม คุณจะได้รับวิตามินซีใกล้เคียงกับการรับประทานส้ม 1 ผลเลยทีเดียว
ข้อควรระวัง :
การทานกะหล่ำปลีดิบมากเกินไปก็เป็นผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกันนะคะ เพราะในกะหล่ำปลีดิบ มีสารกอยโทเจน (Goitrogen) หากร่างกายได้รับสารนี้มากเกินไปก็จะขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ ทำให้ร่างกายไม่ดูดซึมไอโอดีน ร่างกายจะขาดไอโอดีน ทำให้เกิดโรคคอพอกได้ โดยเฉพาะผู้เป็นโรคไทรอยด์ไม่ควรกินมาก เพราะสารดังกล่าวไปลดระดับไทร็อกซินในเลือด หากคุณรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน เพราะความรัอนจะทำลายสารนี้ไปนั่นเองค่ะ
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ
