มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยเลยนะคะที่เป็นทั้งมนุษย์แม่ ดูแลลูก ดูแลปู่ยาตายาย เป็นหัวหน้างานดูแลลูกน้อง แถมต้องพ่วงการดูแลสามีเข้าไปอีกคน ทำให้ผู้หญิงส่วนใหญ่มีความรู้สึกลึก ๆ ว่าชีวิตของลูกผู้หญิงมันช่างเหนื่อยและวุ่นวายเหลือเกิน มีภารกิจทั้งงานราษฎร์และงานหลวง จนรู้สึกว่าทำอะไรไม่เต็มที่ได้เมื่อเทียบกับผู้ชายที่สามารถโฟกัสเรื่องงานได้ดีกว่า
แต่ในความเป็นจริงแล้วผู้หญิงอย่างเราก็มีข้อได้เปรียบหลายอย่างนะคะที่ตัวคุณอาจจะไม่รู้ หรือไม่ได้เอะใจอะไร เรามาดูข้อได้เปรียบของผู้หญิงทั้ง 5 ข้อนี้กันเลยค่ะ
1. ผู้หญิงสามารถขอความร่วมมือจากผู้อื่นได้ดีกว่า
ผู้หญิงเป็นเพศที่ละเอียดอ่อนและมีการเลือกใช้คำและน้ำเสียงได้หลากหลายกว่าผู้ชายมากค่ะ มีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งได้ทำการศึกษาการใช้ภาษาระหว่างผู้หญิงและผู้ชายพบว่า ผู้หญิงจะเลือกใช้คำเพื่อขยายคำนามหรือกริยามากกว่าผู้ชาย ยกตัวอย่าง เช่น ถ้าเราถามเรื่องสี ผู้ชายอาจจะตอบแค่สีแดง แต่ถ้าถามผู้หญิงจะตอบว่าสีแดงเลือดนก ถามเรื่องอารมณ์และความรู้สึก ผู้หญิงจะใช้คำได้ละเอียดลออกว่ามาก เช่น ผู้ชายอาจจะพูดแค่ขอบคุณมาก ผู้หญิงจะใช้คำว่า ขอบคุณมากเลยจริง ๆ
เห็นมั้ยคะว่าแค่คำที่ต่างกันออกไป และน้ำเสียงที่มีความขึ้นลงของเสียงผู้หญิง ทำให้เสียงนั้นเข้าถึงผู้ฟังได้อย่างรื่นหู นั่นเลยเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงอย่างเราสามารถเอ่ยปากขอความร่วมมือหรือขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นได้ไม่ยากเลยค่ะ
2. ผู้หญิงจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีและทำให้ผู้คนไว้ใจได้มากกว่า
ด้วยธรรมชาติของผู้หญิง เราชอบที่จะอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม มีความต้องการที่จะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน พูดคุยกันและช่วยเหลือกันตลอดเลยค่ะ ดังนั้นเวลาที่มีคนมาขอคำปรึกษาหรือมาบ่นให้ฟัง ผู้หญิงจะเป็นผู้ที่รับฟังได้ดีกว่า เพราะนอกจากจะไม่รู้สึกรำคาญกับเรื่องจุกจิกต่าง ๆ แล้วนะคะ ผู้หญิงก็มีความสามารถในการเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเรื่องความไว้ใจค่ะ ความไว้ใจจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเรารู้สึกว่าคนที่เราไปขอคำปรึกษานั้น เข้าใจความรู้สึกของเราจริง ๆ ในการทำงานคุณอาจจะพบว่าเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องจะกล้าเปิดใจและกล้าที่จะปรึกษาเพื่อนและหัวหน้างานที่เป็นผู้หญิงมากกว่า นี้แหละค่ะข้อได้เปรียบของผู้หญิงอย่างเราที่ทำให้ทุกคนสามารถเปิดใจและสื่อสารกับเราได้อย่างตรงไปตรงมา
3. ผู้หญิงสามารถจัดงานที่หลากหลายในเวลาที่จำกัดได้ดีกว่า
ความสามารถในการทำหลาย ๆ อย่างในเวลาเดียวกันนั้น (Multitasking) เป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้หญิงทุกคนจริง ๆ ค่ะ บางคนอาจจะมองว่าผู้หญิงชอบคิดนู้นคิดนี่เยอะแยะเต็มไปหมด แต่การที่สมองผู้หญิงสามารถคิดได้หลายสิ่งและประมวลผลความคิดได้เร็วนั้น ทำให้เราสามารถจัดการปัญหาและงานต่าง ๆ ที่เข้ามาได้รอบด้านในเวลาที่จำกัด
ยกตัวอย่างเช่น ในขณะที่คุณกำลังทำงานอย่างหนึ่งอยู่ มีโทรศัพท์เข้ามา คุยสามารถหาข้อมูลและตอบคำถามจากสายโทรศัพท์นั้นได้ทันที หรือผู้หญิงบางคนนะคะ อาจจะมีความสามารถถึงขั้นคุยโทรศัพท์เรื่องหนึ่งอยู่ และมือก็พิมพ์ทำงานอีกเรื่องหนึ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ
หรือผู้หญิงที่เป็นระดับผู้บริหาร เวลาคุยงานในที่ประชุม ก็สามารถคุยและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วถึงแม้ข้อหัวที่คุยนั้นจะกระโดดข้ามไปข้ามมาจากเรื่องหนึ่งเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกันเลย ผู้หญิงเราก็จะสามารถสลับความคิดได้อย่างรวดเร็วเทียบเท่ากับการเปิดปิดสวิตช์ไฟเลยค่ะ ทำได้หลายอย่างพร้อมกันได้จริง ๆ
4. ผู้หญิงยืดหยุ่นและรับมือกับภาวะวิกฤตได้ดีกว่า
ถ้าพูดถึงความแข็งแรงผู้ชายนั้นแข็งแรงมากกว่าแน่นอน แต่ถ้าพูดถึงความอึดและความอดทนทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว บอกเลยว่าต้องยกรางวัลชนะเลิศให้กับผู้หญิงทั้งโลกเลยค่ะ เพราะธรรมชาติได้เลือกมาแล้วว่าผู้หญิงนั้นเหมาะกับเป็นเพศที่ต้องอุ้มท้องและดูแลลูกมากที่สุด
ถ้าใครได้ผ่านชีวิตของการเป็นมนุษย์แม่แล้วก็จะเข้าใจถึงคำว่าอึดและอดทน ไม่ว่าปัญหาจะมาในรูปแบบไหน ทั้งปัญหาในบ้านนอกบ้าน หรือปัญหาการเงิน การทำงาน ผู้หญิงที่ดูบอบบางก็สามารถผ่านอุปสรรคมาได้ทุกสถานการณ์ด้วยจิตใจที่แข็งแกร่งจริง ๆ
ผู้หญิงบางคนอาจจะมีบุคลิกที่กลัวนู้นกลัวนี่ แต่พอเจอปัญหาหรือวิกฤตใหญ่ ๆ กลับสามารถรับมือกับปัญหานั้นได้อย่างใจเย็น สามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดขาด แล้วเมื่อถึงคราวที่ต้องปรับตัว ผู้หญิงจะยอมปรับตัวโดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ของส่วนรวมเป็นหลัก ไม่มีอัตตาหรือมุ่งเน้นแต่ตัวเองเพียงอย่างเดียว สามารถยืดหยุ่นในการทำงานได้ทุกสถานการณ์ สิ่งนี้จึงทำให้ผู้หญิงอย่างเราสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ไม่แพ้ผู้ชายเลยค่ะ
5. มีโอกาสเติบโตด้วยทักษะการจัดการที่มีมากกว่า
จากข้อได้เปรียบของผู้หญิงทั้ง 4 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น รวมกันทำให้เกิดทักษะที่เรียกว่าทักษะด้านการจัดการ (Management Skill) ซึ่งทักษะนี้เป็นทักษะที่จำเป็นอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะในการทำงานสมัยนี้เรียกได้ว่าทักษะด้านการคำนวณ ความจำ หรือความสามารถเฉพาะทางบางอย่าง ก็จะถูกแทนที่ด้วยคอมพิวเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากขึ้นอีกในอนาคต
ดังนั้นทักษะด้านการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม การเข้าใจผู้อื่น เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัวของผู้หญิงทุกคนเลยค่ะ เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นธรรมชาติของผู้หญิงส่วนใหญ่โดยที่แทบไม่ต้องฝึกเลย
การประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานของผู้หญิงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ผู้หญิงอย่างเรานั้นต้องมั่นใจในตัวเอง และมองเห็นคุณค่าในตัวเองว่าเราสามารถเป็นทั้งผู้ให้ ผู้สนับสนุน และเป็นทั้งผู้นำ ที่จะสามารถทำให้บริษัทและครอบครัวเติบโตไปในทางที่ดียิ่งขึ้นด้วยความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ของเราได้ค่ะ
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ