ถ้าจะพูดถึงเทรนด์ที่กำลังมาแรงก็คงหนีไม่พ้นเทรนด์เรื่องสุขภาพนี่แหล่ะค่ะ มองไปทางไหนก็เจอแต่คนออกมาวิ่งกันเต็มสวนสาธารณะเต็มไปหมด ยิ่งวันอาทิตย์เช้ามีจัดงานวิ่งกันทุกสัปดาห์แบบนี้ ถ้าหากคุณไม่อยากตกเทรนด์ ก็ลองหันมาออกกำลังกายกันดูสิคะ วันนี้เรามีวิธีการออกกำลังกายสำหรับผู้เริ่มต้นมาฝากกันค่ะ นั่นก็คือ การเดินนั่นเองค่ะ
การเดินออกกำลังเป็นหนึ่งในกิจกรรมยามว่างที่คุณสามารถทำได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายค่ะ แถมไม่ต้องใช้เวลานาน และทำได้ทุกสถานที่ แต่ถ้าจะให้ได้สุขภาพที่ดี ก็ต้องรู้จักวิธีการเดินที่ถูกวิธีด้วยนะคะ เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่า วิธีการเดินที่จะทำให้คุณสุขภาพดีมีอะไรกันบ้าง
วอร์มร่างกายก่อนเดิน
แน่นอนว่าก่อนออกกำลังกายทุกครั้งจะต้องมีการวอร์มหรือการอบอุ่นร่างกายก่อนเสมอค่ะ การเดินก็เช่นกัน คุณสามารถวอร์มได้ง่าย ๆ เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกาย ยืดเส้นยืดสายและเป็นการบอกร่างกายให้เตรียมพร้อมว่าต่อไปกล้ามเนื้อจะต้องออกแรงหนักแล้วนะ รวมถึงยังเป็นการลดอาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อและข้อต่อ เช่น ข้อเท้าแพลง เอ็นอักเสบ หรืออาการปวดกล้ามเนื้อต่าง ๆ คงไม่มีใครอยากบาดเจ็บจากการออกกำลังกายหรอกจริงมั้ยคะ บางคนแค่วอร์มร่างกายเหงื่อก็เริ่มออกแล้วแสดงว่าร่างกายเผาผลาญพลังงานได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ เมื่อวอร์มร่างกายเสร็จแล้ว ก็เตรียมพร้อมสำหรับขั้นต่อไปได้เลยค่ะ
เดินเร็ว ก้าวถี่ แกว่งแขน
อันที่จริงการเดินเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันอยู่แล้ว แต่การเดินออกกำลังกายนั้นแตกต่างไปจากการเดินทั่วไปค่ะ เพราะการเดินออกกำลังกายที่ถูกต้องควรเดินด้วยความเร็ว ก้าวเท้ายาวถี่ ๆ และแกว่งแขนแรง ๆ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มการขยับของกล้ามเนื้อส่วนอื่น ๆ ให้ได้ออกกำลังกายไปด้วย อีกทั้งยังสามารถเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบหัวใจและหลอดเลือดให้ทำงานมากขึ้นกว่าเดิม เป็นเสมือนการฝึกหัวใจให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้นค่ะ ใครที่เดินออกกำลังเป็นประจำอยู่แล้ว ลองท้าท้ายด้วยเองด้วยการเดินเร็วและแกว่งแขนไปด้วยดูนะคะ
เดินให้เหนื่อย
การเดินที่ได้สุขภาพดีควรจะเดินแล้วรู้สึกเหนื่อยค่ะ หากคุณเดินไปเรื่อย ๆ แล้วยังคงสามารถหายใจได้ตามปกติ พูดเป็นประโยคยาว ๆ ได้อยู่ ยังไม่ใช่การเดินเพื่อออกกำลังกาย ดังนั้นคุณควรจะเดินให้เร็วขึ้น จนกระทั่งเกิดอาการเหนื่อย สังเกตได้จากยังสามารถพูดเป็นประโยคได้อยู่แต่เป็นประโยคที่สั้นลงกว่าเดิม หัวใจเต้นเร็วขึ้น เหงื่อเริ่มออก นั่นแหละค่ะ ถึงเรียกว่าการเดินออกกำลังกาย
คนที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายใหม่ ๆ แนะนำให้เดินอย่างเดียวไปเรื่อย ๆ ก่อนนะคะ เพราะหากรีบเร่งเกินไปอาจจะทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บหรือส่งผลเสียต่อร่างกายได้ค่ะ แต่สำหรับคนที่มีสุขภาพดีอยู่แล้วคุณอาจจะเพิ่มความยากด้วยกการเดินไปวิ่งไป เพื่อเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และเมื่อร่างกายของคุณแข็งแรงมากขึ้น คุณสามารถเปลี่ยนจากการเดินสลับวิ่ง เป็นการวิ่งตลอดเพื่อออกกำลังกายให้มากยิ่งขึ้นค่ะ
เดินอย่างต่อเนื่อง
หลังจากที่ทราบวิธีการเดินออกกำลังกายว่าต้องเดินให้รู้สึกเหนื่อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากในการเดินคือ ความต่อเนื่องในการเดินค่ะ บางคนเดินไปสักพักหยุดกินน้ำ หยุดพูดคุยกับคนรู้จัก ก็จะทำให้ไม่ได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่นะคะ เพราะปกติแล้วร่างกายจะเริ่มนำพลังงานที่เก็บสะสมไว้มาเผาผลาญหลังจากออกกำลังไปได้ในระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้นให้คุณตั้งใจเอาไว้ว่าถ้าไม่ถึงเป้าหมายเราจะไม่หยุดเดินโดยเด็ดขาด
สำหรับคนที่มีภารกิจรัดตัว ต้องทำงาน ดูแลบ้านและครอบครัว จนทำให้ไม่ค่อยมีเวลาออกกำลังกาย ขอแนะนำให้คุณจัดตารางสำหรับออกกำลังกายโดยเฉพาะเลยค่ะ โดยแต่ละวันให้แบ่งการเดินเป็น 2 ช่วง ช่วงละประมาณ 5 – 10 นาที แล้วค่อยพัก ในทางกลับกันสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายและหันออกมาเริ่มต้นออกกำลังกาย ก็ควรเริ่มใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก่อนนะคะ เช่น เดิน 5 นาที แล้วค่อย ๆ เพิ่มเวลาขึ้นทีละนิด ไม่ต้องรีบร้อนค่อยเป็นค่อยไปเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บของร่างกาย
ผ่อนคลายก่อนจะหยุด
หลังจากที่เราออกกำลังกายด้วยการเดินมาได้สักระยะหนึ่ง ก่อนที่เราจะหยุดออกกำลังกายนั้น เราควรจะผ่อนคลายกล้ามเนื้อก่อนนะคะ เพราะการหยุดยืนอยู่กับที่ทันทีทันใด จะทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บ ดังนั้น เพื่อให้ระบบต่าง ๆ ลดการทำงานลงกลับสู่สภาวะปกติ โดยเฉพาะผู้สูงอายุมักมีปัญหาเรื่องระบบหัวใจและหลอดเลือด ให้เริ่มลดความเร็วในการเดินลง หายใจเข้าออกลึกๆ เมื่อยืนนิ่งสนิทก็อย่าเพิ่งนั่งนะคะ ให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อข้อเท้า ขา หลัง เพียงเท่านี้คุณก็จะไม่มีอาการเจ็บปวดจากการออกกำลังกายแล้วล่ะค่ะ
เห็นมั้ยคะว่า การออกกำลังกายเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็หันมาออกกำลังกายด้วยการเดินกันเถอะค่ะ เพื่อสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี มีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง แถมยังอินเทรนด์ทำให้สุขภาพดี หุ่นเป๊ะปังอีกด้วยนะคะ
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทอง ใส่ใจสร้างสรรค์ข้าวคุณภาพ