ออกกำลังกาย สไตล์คนป่วย
การออกกำลังกายเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าคุณป่วยเป็นหอบหืด ภูมิแพ้ หรือคนที่อ้วนมากๆ ถ้าออกกำลังกายอย่างไม่ถูกต้องผลที่ได้อาจตรงกันข้าม วันนี้เรามีเคล็ดลับการออกกำลังกายสำหรับคนป่วย ที่คนทั่วไปก็สามารถทำได้มาฝากกันค่ะ
- โรคหอบหืด โรคภูมิแพ้ถือเป็นโรคประจำตัวที่มีผู้ป่วยเยอะที่สุดก็ว่าได้ คนที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้คงเคยประสบกับการหายใจติดขัด ขณะออกกำลังกายหรือหลังออกกำลังกายอยู่เป็นแน่ แอดมินก็เคยเป็นค่ะ ทั้งจุกแน่นหน้าอก ไอและ หายใจหอบถี่ เคยหนักสุดก็ช็อค และเข้าโรงพยาบาลค่ะ ซึ่งอาการเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจาก
- ระบบหายใจดอบสนองต่ออากาศที่สูดเข้าไปไวเกินไป
- การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันของอุณหภูมิและความชื้นในอากาศที่เราสูดเข้าไปเวและลึกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเมื่ออากาศนั้นเย็นและแห้งมาก
- ขณะออกกำลังกายเรามักใช้ปากเพื่อช่วยหายใจ ทำให้ปอดได้รับอากาศที่เย็นและแห้งกว่าปกติ อาการจึงกำเริบ
เมื่อเรารู้สาเหตุแล้ว ทำให้เราสามารถเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสมได้นั่นก็คือ การว่ายน้ำค่ะ
ทำไมถึงต้องว่ายน้ำ?
- เพราะน้ำในสระความชื้นและอุณหภูมิคงที่
- การว่ายน้ำใช้กล้ามเนื้อส่วนบนมากกว่า จึงถือเป็นการบริหารกล้ามเนื้อปอดค่ะ
- เพราะการว่ายน้ำคือการออกกำลังกายในท่านอน (แนวราบ) ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อปอดช่วยไล่อากาศ หรือขับสิ่งที่ขัดขวางการหายใจออกได้ง่ายขึ้น
ส่วนการออกกำลังกายแบบอื่นที่แนะนำรองลงมาคือ การออกกำลังกายแบบที่ไม่ต่อเนื่องเช่น การเดิน การขี่จักรยาน หรือการเล่นกอล์ฟ เพราะมีจังหวะให้เราหยุดพักได้
ส่วนกีฬาที่ไม่แนะนำเลยนอกจากประเภทที่ต่อเนื่องเช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอลแล้ว ยังมีกีฬาเมืองหนาว เช่น สกี ไอซ์สเก็ต ซึ่งกีฬาจำพวกนี้มีแนวโน้มที่จะทำให้กล้าเนื้อหลอดลมตีบได้มากขึ้น
- โรคอ้วนด้วยความที่มีน้ำหนักมาก ทำให้การจะออกกำลังกายแต่ละครั้งต้องคำนึงถึงร่างกายช่วงล่างที่ต้องรองรับน้ำหนัก ซึ่ง การวิ่งจ็อกกิ้งหรือเดิน เป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนที่มีน้ำหนักมากเช่นนี้ที่สุด แต่ถ้ากังวลเรื่องเข่าก็สามารถที่จะเลี่ยงไปว่ายน้ำแทนได้เช่นกันค่ะ เพราะน้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักของเราได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นกีฬาประเภทไหนก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ คุณต้องเริ่มต้นทีละน้อย และค่อยๆเป็นค่อยๆไป และต้องจำไว้เสมอว่าคุณต้องวอร์มอัพร่างกาย ยืดกล้ามเนื้อให้เต็มที่ก่อนทุกครั้ง เพื่อกระตุ้นกล้ามเนื้อส่วนต่างๆที่คุณไม่ค่อยได้ใช้และช่วยลดอาการบาดเจ็บได้ด้วยค่ะ และสิ่งสุดท้ายคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อาจจะวันเว้นวันก็ได้ค่ะ โดยเริ่มเดิน หรือวิ่งช้าๆ รอบละ 10 นาที จากนั้นก็ค่อยๆเพิ่มเป็น 15 – 20 นาที ใน 2 – 3 สัปดาห์ถัดไป เพื่อให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว กล้ามเนื้อค่อยๆเข้ารูป และจะได้หุ่นที่ดีกลับมาในที่สุดค่ะ
[leap_gap height=”20px” ]
จำไว้ว่าการออกกำลังกายทุกอย่างสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการอบอุ่นร่างกาย และยืดกล้ามเนื้อก่อนทุกครั้ง เพื่อลดอาการบาดเจ็บ พยายามอย่าอ้าปากมากเมื่อต้องให้การหายใจทางปาก ให้ห่อปากให้เล็กที่สุดเท่าที่ทำได้ และที่สำคัญให้หาเพื่อนมาร่วมออกกำลังกาย อย่างน้อยก็เพื่อให้กำลังใจกันและกัน และสามารถช่วยเหลือคุณได้เมื่อมีอาการของโรคกำเริบ สุดท้ายถ้าคิดอยู่แค่ว่าเราป่วยๆ แล้วไม่พยายามที่จะออกกำลังกาย ร่างกายมันจะยิ่งแย่ลงไปค่ะ อย่าลืมติดตามเคล็ดลับสุขภาพดีๆแบบนี้ได้ที่นี่ทุกวันกับ “ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ”
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์หลักของเรา ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
[leap_gap height=”20px” ]
