“เครียดอีกแล้ว เผลอไม่ได้ต้องเครียดทุกที ยิ่งปัญหามากมายที่ประดังเข้ามา ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน หรือว่าเรื่องความรัก ก็เครียดไปหมด ถ้าไม่ปล่อยวางบ้างคงแย่แน่ๆ ว่าแล้วหาอะไรกินแก้เครียดดีกว่า” เชื่อว่าหลายๆท่านคงเคยประสบกับเหตุการณ์ทำนองนี้ว่าก่อน เครียดแล้วก็กิน ยิ่งเครียดยิ่งกิน วันนี้เราจึงอยากแนะนำอาหารที่สามารถช่วยคลายเครียดได้เป็นอย่างดีกับทุกๆท่านกันค่ะ
ความเครียดเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ง่าย เกิดขึ้นได้บ่อย เกือบทุกวันก็ว่าได้ บางท่านเครียดเป็นนิสัยก็มี อะไรนิดๆหน่อยๆ ก็เครียดซะแล้ว ซึ่งความเครียดถือได้ว่าเป็นพิษร้ายต่อสุขภาพของเราเลยค่ะ เพราะนอกจากจะบั่นทอนสุขภาพจิตแล้ว ร่างกายก็พลอยแย่ไปด้วย และยังสามารถลามไปกระทบกับผู้คนรอบตัวได้อีกด้วย เราจึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงผลเสียของความเครียด พร้อมทั้งแนะแนวทางที่จะช่วยรับมือกับความเครียดให้ได้กันค่ะ
ความเครียดนั้นอย่างที่ทราบกันดีว่ามีผลต่อทั้งทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากอารมณ์คือตัวแปรสำคัญที่จะกระตุ้นให้เกิดความเครียด ซึ่งเมื่อเครียดแล้วร่างกายเราก็จะตอบสนองด้วยการปรับตัว แบ่งได้ 3 ระยะคือ
- ระยะเตือน (Alarm Reaction state) เมื่อร่างกายถูกระตุ้นให้เกิดความครียด สมองจะกระตุ้นให้ร่างกายเกิดอาการต่างๆเช่น หัวใจเต้นเร็วขึ้น หายจายถี่ขึ้น กล้ามเนื้อเพิ่มความตึงตัว เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้ทำให้ร่างกายต้องใช้พลังงานมากขึ้น นี่คือสาเหตุแรกที่เราต้องกินอาหารเพิ่มขึ้นค่ะ
- ระยะทนทาน (Resistance state) เป็นระยะที่ร่างกายจะหลังฮอร์โมนชื่อ คอร์ติซอล เพื่อทำให้ร่างกายเผาผลาญอาหารที่สะสมไว้ เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เพื่อให้ร่างกายทนต่อความเครียดได้ ซึ่งระยะนี้ร่างกายต้องใช้วิตามินและเกลือแร่มากขึ้นเพื่อให้กระบวนการเผาผลาญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- ระยะหมดแรง (Exhaustion state) จะเกิดขึ้นเมื่อเราปล่อยให้ความเครียดอยู่นาน จนร่างหายใช้พลังงานไปจนหมด ฮอร์โมน คอร์ติซอลที่มีอยู่จะทำการย่อยสลายโปรตีนในกล้ามเนื้อเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน ยับยั้งไม่ให้เซลล์สร้างภูมิคุมกัน เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กระเพาะอาหารหลังกรดมาเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นในภาวะเครียดเราจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่เน้นการให้พลังงานแทน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายสลายไขมันและโปรตีนมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อเหลว และไม่มีแรง จึงควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้พลังงานดังนี้
- คาร์โบไฮเดรต ถือเป็นแหล่งพลังงานสำคัญเราจึงควรรับประทานในช่วงนี้ เช่น ขนมปังโฮลวีท หรือ ข้าวกล้อง หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวต่างๆก็ได้
- รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ ที่ช่วยในกระบวนการเปลี่ยนสารอาหารเป็นพลังงาน เช่น วิตามินบี1 บี2 ไนอะซิน เหล็ก และแมกนีเซียม ซึ่งมีอยู่ใน เนื้อสัตว์ ผัก นม และข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือข้าวกล้อง
- หลีกเลี่ยงไขมันต่างๆ เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป และเป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วนได้ค่ะ
- อาหารรสจัด เพราะความเครียดจะทำให้กระเพาะหลั่งกรดมามาก และความดันขึ้นสูงอยู่แล้ว อาหารรสจัดเช่น เค็มจัด จะทำให้ความดันเพิ่มขึ้นสูงขึ้น หรือเปรี้ยวจัดจะเป็นการเพิ่มความเข้มข้นของกรดให้มากยิ่งขึ้นไปอีกค่ะ
[leap_gap height=”20px” ]
นอกจากจะหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้แล้ว ข้อสำคัญอีกอย่างคือด้านอารมณ์และจิตใจค่ะ เพราะความเครียดนั้นขึ้นลงตามอารมณ์ของเราเป็นหลัก เราจึงควรทำจิตใจให้ผ่อนคลาย รู้จักปล่อยวาง จัดการกระบวนการคิดให้ดีขึ้น โดยอาจจะนั่งสมาธิ หรือเล่นโยคะ ก็ได้ค่ะ โดยเฉพาะโยคะถือเป็นการออกกำลังกายที่มีประโยชน์มากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้เราได้ผ่อนคลายแล้วยังช่วยเรื่องการปรับสมดุลทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยค่ะ อย่าลืมติดตามบทความสุขภาพดีๆแบบนี้ได้ที่นี่กับ “ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ”
อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์หลักของเรา ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
[leap_gap height=”20px” ]