Contact Us Contact Us

สุขภาพ : วิธีออกกำลังกาย ช่วยระบบลำไส้ กระตุ้นการขับถ่าย

วิธีออกกำลังกาย ช่วยระบบลำไส้ กระตุ้นการขับถ่าย

             

 

คุณคงเคยรู้สึกหงุดหงิด ไม่สบายตัว อึดอัด ขับถ่ายไม่ดี ท้องอืด ท้องเฟ้อ ปวดท้องจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลยใช่ไหม อาการเหล่านี้มักเป็นปัญหาที่ลำไส้ และระบบขับถ่ายที่กำลังมีปัญหา นี่เป็นวิธีแก้ทั้งภายในและภายนอกร่างกาย เพื่อประสมดุลให้ภายในร่างกายและการขับถ่ายกลับมาเป็นปกติอีกครั้งด้วย 4 วิธีนี้

1.ฝึกการออกกำลังกายเพื่อกระตุ้นลำไส้และระบบขับถ่าย

คุณอาจจะสงสัยว่าการออกกำลังกายมันจะช่วยเรื่องภายในอย่างลำไส้ด้วยเหรอ ร่างกายเราพิเศษสามารถทำถึงขั้นเดินลมปราณกำลังภายในยังได้เลย แต่คุณไม่ถึงกับต้องฝึกเพื่อเป็นจอมยุทธแบบในหนังจีนอะไรทำนองนั้นหรอกนะ กล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆ เชื่อมต่อกันเสมอ เราสามารถทำให้ระบบภายในลำไส้และการขับถ่ายดีขึ้นได้ ด้วยการออกกำลังกายเพียง 4 ท่าง่ายๆ เป็นการบริหารกล้ามเนื้อแบบโยคะ ที่จะใช้ช่วงลำตัว หลัง และหน้าท้องเป็นหลัก

 

ท่าที่ 1 : Pawanmuktasana

ท่า Pawanmuktasana  หรือ Gas release pose  ตามชื่อเลยคือเป็นท่าขับลมในร่างกายทางลำไส้ใหญ่ ช่วยเสริมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายได้อย่างดี

 

วิธีทำ : ให้เริ่มจากการนอนหงาดเหยียดตามปกติ จากนั้นค่อยๆงอเข่าทั้งสองข้างพร้อมกับดึงเข้ามาหาตัวใกล้ๆบริเวณหน้าอก แล้วใช้แขนทั้งสองข้างโอบกอดเข่าเอาไว้ให้ชิดกับหน้าท้องและหน้าอก พร้อมกับยกหัวของเราขึ้นไปหาหัวเข่าแล้วหายใจออกยาวๆ

 

 

ท่า 2 : Balasana

ท่า Balasana หรือ Child Pose เป็นท่าที่ทำได้ง่ายเพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหารและระบบขับถ่าย  ช่วยเรื่องการกระตุ้นให้เลือดไปเลี้ยงศรีษะได้มากขึ้น ทำให้รู้สึก  เบา สบาย ปลอดโปร่ง และเป็นการยืดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลัง เอว ไหล่

วิธีทำ : นั่งบนฝ่าเท้าปล่อยตัวให้สบาย จากนั้นให้ก้มโน้มลำตัวลงให้สุดฝ่ามือและหน้าผากชิดกับพื้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆดันตัวกลับมาในท่าเริ่มต้นอีกครั้ง

 

 

ท่า 3 : Bhujangasana

ท่า Bhujangasana หรือ Cobra Pose เป็นอีก 1 ท่าที่ทำได้ไม่ยาก ท่านี้จะช่วยแก้อาการท้องผูก เพิ่มความแข็งแรงให้กระดูกสันหลัง และเป็นท่าที่ใช้ยืดหลังสำหรับคนที่มีอาการปวดหลัง

วิธีทำ : นอนคว่ำราบลงไปบนพื้น เท้าแยกของจากกันเล็กน้อย คว่ำฝ่ามือลงกับพื้นทั้งสองข้างให้ระดับมืออยู่ในแนวเดียวกันกับหน้าอก หายใจเข้าลึกๆ แล้วใช้แขนทั้งสองข้างดันลำตัวช่วงบนขึ้น ให้ช่วงสะดือลอยจากพื้น น้ำหนักทั้งหมดของร่างกายส่วนบน จะอยู่ที่มือ และต้นขา ค้างไว้สัก 5 วินาที

 

ท่า 4 : Supta Matsyendrasana

ท่า Supta Matsyendrasana หรือ Supine Spinal Twist ท่านี้จะช่วยเรื่องการทำงานของลำไส้ การย่อยอาหารและดูดซึม และลดอาการปวดเอวและหลังได้

 

วิธีทำ : นอนหงายกับพื้น เหยียดขาตรง กางแขนออกเป็นแนวเดียวกับไหล่ หงายฝ่ามือขึ้นจากนั้นงอเข่าขวา ใช้มือซ้ายแตะด้านนอกของเข่าขวา และใช้มือซ้ายดันเข่าขวาติดพื้น พร้อมกับบิดตัวไปทางขวา

หันหน้าไปทางไหล่ขวาแล้วค่อยๆคลายท่ากลับไปเริ่มต้นแล้วสลับทำอีกข้างนึง

2.ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอ 

เท่าไรล่ะถึงจะเพียงพอ? คนที่ดื่มน้ำน้อยมักจะเจอกับปัญหาบ่อยๆ คือ อาการท้องผูก ร่างกายของเราประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 70% คนเราต้องการดื่มน้ำวันละประมาณ 2-3 ลิตร (ประมาณน้ำขวดใหญ่ 2 ขวด) เพราะในแต่ละวันร่างกายจะเสียน้ำออกทาง ลมหายใจ เหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ การดื่มน้ำน้อยมีส่วนทำให้เกิดท้องผูกเพราะลำไส้ไม่มีน้ำเพียงพอที่จะไปกระตุ้น จึงทำให้อุจจาระจึงแข็งและเคลื่อนที่ได้ช้า เพราะฉะนั้นถ้ารู้สึกว่าเริ่มขับถ่ายยาก หรือกินผักใยไฟเบอร์น้อย ก็ต้องดื่มน้ำให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน

 

3.กินอาหารที่กระตุ้นการย่อย

สับปะรด น้ำแอปเปิ้ลไซเดอร์ อาหาร 2 ประเภทนี้ดีต่อการย่อยและระบบลำไส้มากๆ สับปะรดมีเอนไซม์โบรมีเลน (Bromelain) ที่ช่วยย่อยโปรตีนได้เร็วและง่ายขึ้นและทำความสะอาดลำไส้ เช่นดียวกับแอปเปิ้ลไซเดอร์ ที่ช่วยแก้ปัญหาเรื่องระบบย่อย ท้องอืด ท้องเฟ้อ ได้เป็นอย่างดี และยังช่วยเผาผลาญไขมัน ลดไตรกลีเซอไรด์ในระยะยาวได้อีกด้วย แนะนำให้กินวันละประมาณ 1-2 ช้อนชาผสมกับน้ำ หรือ น้ำผึ้งเผื่อลดความเปรี้ยวและฝาดลง และเสริมอาหารที่มีจุลินทรีย์จุลินทรีย์ชิโรต้า หรือ แลคโตบาซิลลัส ในโยเกิร์ตหรือนมเปรี้ยว เพื่อรักษาสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ช่วยลดอาการท้องผูก และการเคลื่อนที่ของลำไส้ในการย่อยอาหาร

4.กินอาหารที่ไฟเบอร์สูง 

แน่นอนว่าทุกคนจะนึกถึงการกินผักผลไม้เป็นจานๆแต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆแล้วไฟเบอร์มีอยู่ในอาหารที่เราคุ้นเคย “ข้าว” แต่ข้าวที่เรามักจะกินมักจะเป็นข้าวขาว ที่ส่วนของไฟเบอร์ถูกสกัดออกไปเยอะแล้ว ข้าวที่เหมาะสมกับระบบย่อยและขับถ่ายคือ ข้าวกล้อง พอพูดถึงข้าวกล้องหลายคนก็จะนึกไปนึกข้าวที่กินเพื่อลดน้ำหนัก มีความแข็งๆหยาบๆ ผิวสัมผัสที่เคี้ยวแล้วไม่ค่อยอร่อย

แต่ไม่ใช่ข้าวกล้องของหงษ์ทองไลฟ์แน่นอน ถ้าคุณยังไม่เคยลอง ข้าวกล้องหงษ์ทองไลฟ์มีความมันของเมล็ดและนุ่มจนไม่เสียอรรถรสการเคี้ยวข้าว เป็นข้าวกล้องที่ทานง่าย เกรดคุณภาพข้าวกล้องที่ดีกว่าข้าวกล้องในท้องตลาดทั่วไป ไฟเบอร์จากข้าวกล้องจะช่วยให้อิ่มท้องนานกว่าเดิม และดีต่อลำไส้และระบบขับถ่ายมากๆ และยังลดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งลำไส้ได้ดีเยี่ยม

 

[leap_gap height=”20px” ]

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์หลักของเรา ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ

[leap_gap height=”20px” ]