Contact Us Contact Us

อาหารเพื่อสุขภาพ : “กระท้อนทรงเครื่อง” แค่ชื่อก็ซี๊ด!! จี๊ด!! จัดจ้านน่าลอง

  กระท้อน

อาหารเพื่อสุขภาพ : กระท้อนลูกใหญ่ๆ เนื้อในนุ่มเป็นปุย แปลงรูป แปลงรสชาติ ความอร่อยให้กับกระท้อนสักหน่อย จะได้รสชาติครบเครื่อง ครบรสค่ะ

กระท้อน  มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นที่แตกต่างกัน ในประเทศไทย ภาคอีสานเรียกกระท้อนว่า มะต้อง หรือหมากต้อง ภาคเหนือเรียก มะต้อง หรือมะติ๋น ส่วนภาษาใต้เรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า เตียน ล่อน สะท้อน สตียา สะตู สะโต เป็นไม้ยืนต้น ผลอ่อนสีเขียว เมื่อผลแก่เปลือกผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและมีน้ำยาง รูปกลมแป้น ผิวมีขนแบบกำมะหยี่อ่อนนุ่ม เป็นผลไม้ตามฤดูกาล ให้ผลผลิตช่วงเดือนมิถุนายน-กันยายน ปลูกได้ทุกภาคทั่วประเทศกระท้อนเป็นผลไม้ที่สามารถนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรได้หลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นใบสด เปลือก ราก แต่ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมนำผลมารับประทาน

เป็นทั้งอาหารคาวหวาน เนื่องจากมีรสชาติที่อร่อยและรสสัมผัสที่นุ่มละมุน เมื่อเก็บมาจากต้นควรตั้งทิ้งไว้ 2-3 วัน อย่างที่คนโบราณ เรียกว่า “ทิ้งไว้ให้ลืมต้น” การทานกระท้อนให้อร่อย ต้องทุบเบาๆ พอให้น่วม กระท้อนจะมีรสหวาน แต่เมนูนี้ ไม่ต้องทุบก็ หวาน เปรี้ยว ซี๊ด จี๊ด จัดจ้าน มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

ผลกระท้อน

เคล็ดลับในการเลือก กระท้อน

ต้องมีสีเหลืองนวล – เข้ม รูปกลมแป้น ผิวมีขนแบบกำมะหยี่อ่อนนุ่ม ก้นลูกกระท้อนจะต้องไม่มีสีเขียว ขั้วต้องไม่เหี่ยว หรือหลุด เนื่องจากเป็นกระท้อนเก่าที่เก็บมาแล้วหลายวัน  ก้นลูกกระท้อนจะต้องไม่แตก กระท้อนที่ก้นแตกมักจะมีรสจืด

 

กระท้อนมีทั้งหมด 4 สายพันธุ์

1.กระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย มีรสหวาน มีเปลือกที่นิ่ม และเม็ดกระท้อนมีปุยเหมือนปุยฝ้าย

2.กระท้อนพันธุ์อีล่า  มีรสอมเปรี้ยว และผลกระท้อนจะมีขนาดใหญ่มากบางผลน้ำหนักถึง 0.9 กิโลกรัม

3.กระท้อนพันธุ์ทับทิม  มีรสหวาน เนื่องจากมีชาวสวนปลูกน้อย จึงไม่มีคนรู้จักมากนัก

4.กระท้อนพันธุ์นิ่มนวล เปลือกบาง เนื้อหนานิ่ม ไม่กระด้าง ปุยหุ้มเมล็ดหนาฟู รสหวานจัดเป็นสายพันธุ์ที่นิยมบริโภค

*ขอชิมเป็นวิธีที่ดีที่สุด กระท้อนสวนเดียวกันไม่แน่ว่าจะมีรสเหมือนกัน

วัตถุดิบที่ต้องเตรียม

[leap_ul]
[leap_li icon=”hand-o-right” iconcolor=”#000000″] กระท้อน (เปรี้ยวหรือหวานแล้วแต่ชอบ)  [/leap_li]
[leap_li icon=”hand-o-right” iconcolor=”#000000″] น้ำตาลปิ๊บ 5 ชต. [/leap_li]
[leap_li icon=”hand-o-right” iconcolor=”#000000″] น้ำปลา 1 ชต. [/leap_li]
[leap_li icon=”hand-o-right” iconcolor=”#000000″] กะปิ 1/2 ชช. [/leap_li]
[leap_li icon=”hand-o-right” iconcolor=”#000000″] พริกป่น พริกขี้หนู  ถั่วลิสงป่น  กุ้งแห้ง หอมแดง [/leap_li]
[/leap_ul]

วิธีทำ กระท้อน

  1. นำน้ำเปล่าใส่ภาชนะก้นลึกพอให้แช่กระท้อนได้ท่วม
  2. นำเกลือใส่ลงไปในน้ำ
  3. ปอกเปลือกกระท้อน
  4. บั้งกระท้อน (ถ้าขี้เกียจก็บั้งหนาๆ ถ้ามีเวลาหน่อยก็บั้งถี่ๆ อันนี้แล้วแต่คนชอบด้วยนะคะ)
  5. นำกระท้อนที่บั้งแล้ว ลงไปแช่ในน้ำเกลือที่เตรียมไว้เพื่อลดความดำ และลดความฝาดของกระท้อนค่ะ

วิธีทำน้ำราด

  1. นำน้ำเปล่าใส่ลงในหม้อ
  2. ใส่น้ำปลา 1 ชต. (ถ้าชอบเค็มมาก ก็ใส่มากค่ะ)
  3. ใส่น้ำตาลปี๊บ 5 ชต.ลงไป
  4. ใส่กะปิ ½ ชช.นิดหน่อย (ถ้าไม่ชอบไม่ต้องใส่ก็ได้)
  5. คนให้น้ำตาลละลาย เคี่ยวต่อไปจนเดือด เราคนดูอาจจะเห็นว่ามันยังไม่เหนียว ยกลง ทิ้งไว้ให้มันเย็นตัวลงมันจะเหนียวเองค่ะ แต่ถ้าเย็นตัวแล้วยังไม่เหนียวอีก ให้เรามาตั้งไฟต่อจนเดือดอีกครั้ง (บางทีน้ำอาจจะมากกว่าปริมาณของน้ำตาลทำให้ไม่เหนียวก็เป็นได้ค่ะ)

 

เครื่องใส่น้ำราด

  1. หอมแดง
  2. กุ้งแห้ง (ถ้าชอบนิ่มให้แช่น้ำทิ้งไว้ก่อนสักพัก เสร็จแล้วนำมาตำ หรือถ้าชอบเป็นตัวก็ใส่เป็นตัวเลยค่ะ ไม่ต้องตำ)
  3. ถั่วลิสง (จะซื้อแบบคั่วสำเร็จ หรือจะซื้อมาคั่วเองก็ได้เพราะมันจะหอม)
  4. กุ้งแดง
  5. มะพร้าวคั่ว (ถ้าไม่มีก็ไม่ใส่ก็ได้นะคะ)
  6. พริกป่น (สำหรับคนที่ชอบรสเผ็ดค่ะ)

 

วิธีทำ เครื่องใส่น้ำราด

  1. นำหอมแดงมาปอกเปลือก แล้วซอยบางๆ
  2. นำกุ้งแห้งมาแช่น้ำทิ้งไว้สักพัก เสร็จแล้วนำมาตำ (ถ้าชอบนิ่มให้แช่น้ำ ถ้าชอบเป็นตัวก็ใส่เป็นตัวเลยค่ะ ไม่ต้องตำ)
  3. นำถั่วลิงสงมาคั่วในกระทะ ตั้งไฟอ่อนๆ คั่วจนมันออกสีเหลือง ยกลง ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วเอามือไปขยี้ให้เปลือกมันแยกออกจากเม็ดถั่ว นำไปฝัดเปลือกออก แล้วนำมาตำพอบุบ ๆ (ถ้าชอบเป็นเม็ดก็ใส่เป็นเม็ดเลยค่ะ)
  4. นำหอมแดง กุ้งแห้ง ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแดง มะพร้าวคั่ว พริกป่น ใส่ลงในน้ำราดที่เราเตรียมไว้แล้ว คนให้เข้ากัน ก็เป็นอันเสร็จวิธีค่ะ (ขั้นตอนนี้ถ้าอยากจัดจานให้สวยหน่อยก็ไม่ต้องผสมให้เข้ากันก็ได้นะค่ะ อาจจะแยกเครื่องกับน้ำราดออกจากกัน โดยเอาเครื่องที่เตรียมไว้ไปวางบนลูกกระท้อน แล้วค่อยราดน้ำตามทีหลังก็ได้เหมือนกันค่ะ )

 

เคล็ดลับในการปรุง

ถ้าท่านคนบ่อยๆ น้ำตาลจะเป็นเม็ดทราย แล้วถ้ามันเป็นเม็ดทรายจะทำอย่างไร มะนาวค่ะ..ที่เตรียมไว้ ฝานแล้วบีบลงไปสักครึ่งลูก น้ำตาลก็จะคืนตัวดังเดิม

 

ผลกระท้อน-02

ประโยชน์และสรรพคุณ

สมุนไพร กระท้อนมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ใบสด ใช้ขับเหงื่อ ต้มอาบแก้ไข้ เปลือกต้นต้มน้ำดื่มแก้ท้องเสีย รักษาโรคผิวหนัง กลากเกลื้อน ราก เป็นยาขับลม แก้ท้องเสีย บิด เป็นยาธาตุ

หลายส่วนของกระท้อนมีฤทธิ์แก้อักเสบ และสารสกัดจากกิ่งกระท้อนบางชนิดมีผลยับยั้งมะเร็งในหลอดทดลอง สารสกัดจากเมล็ดกระท้อนมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลง

 

ข้อควรระวัง

1.ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมล็ดกระท้อนระวังอาจจะไหลติดคอจนทำให้หายใจไม่ออกได้

2.ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงเป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากมีคาร์โบไฮเดรตสูง และอุดมไปด้วยน้ำตาล

3.ผู้ป่วยที่เป็นโรคไต ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะทำให้มีภาวะธาตุโพแทสเซียมสูง

[leap_gap height=”10px” ]

อย่าลืมกดไลค์แฟนเพจกันด้วยนะคะ www.facebook.com/ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ
เว็บไซต์หลักของเรา ข้าวหงษ์ทองไลฟ์ ข้าวอร่อยเพื่อสุขภาพ

[leap_gap height=”20px” ]